หอการค้าชี้เศรษฐกิจไทย เริ่มส่งสัญญาณเงินฝืด จี้รัฐออกมาตรการกระตุ้นด่วน

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือน พ.ย.ว่าการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคยังไม่คึกคัก เป็นลักษณะซึมทั้งประเทศ เนื่องจากผู้บริโภคกังวลสถานการณ์การเมืองในประเทศ ราคาพลังงานและค่าครองชีพที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง หนี้ครัวเรือนที่สูง ปัญหาเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะชะลอตัวลง ส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจไทยและการจ้างงานมีโอกาสฟื้นตัวได้ช้าในอนาคต ทำให้รายได้ในอนาคตของผู้บริโภคมีความไม่แน่นอนสูง

ทั้งนี้หากพิจารณาภาวะเศรษฐกิจ ยอมรับว่า มีความน่ากังวล เห็นได้จากความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่ปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่2อยู่ที่ 57.4 จาก 58.3 ในเดือนต.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคแม้จะปรับระดับขึ้นเรื่อย ๆ แต่ยังอยู่ในแดนลบต่อเนื่อง ผู้บริโภคระวังการจับจ่ายใช้สอย ดัชนีรายได้ในอนาคตยังไม่ดี เป็นสัญญาณว่า เศรษฐกิจซึม มีหลายอย่างกำลังบ่งชี้ว่า เงินกำลังฝืด รัฐต้องเร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วที่สุดในช่วงปลายปี และไตรมาส1ปี67

“ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปีนี้ หอการค้าฯ ยังไม่ปรับตัวเลข หรือโตอยู่ที่3-3.5%เราก็ประเมินไว้ที่3%ต้น ๆ หากเรื่องการลงทุน การท่องเที่ยวเป็นไปตามคาด และเรื่องการเบิกจ่ายของรัฐที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจในปี 67เพราะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในทุกโครงการ ถ้างบประมาณมันเดินไปตามกรอบก็จะเป็นอีกปัจจัยที่อาจทำให้เศรษฐกิจเราโตกว่าที่คาดการณ์ไว้ เราจะยังไม่ประเมินปีหน้าว่าจะโตเท่าไร”

อย่างไรก็ตามหากดูเฉพาะผลสำรวจเดือนพ.ย.66พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ปรับตัวจากระดับ60.2เป็น60.9ดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่4อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ45เดือนนับตั้งแต่เดือนมี.ค.63เป็นต้นมาแต่การที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมยังคงเคลื่อนไหวระดับต่ำกว่าปกติ (ระดับ 100 ) แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงเห็นว่าผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โอกาสหางานทำ และรายได้ในอนาคต เพราะมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในประเทศ ราคาพลังงานและค่าครองชีพที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง รวมทั้งปัญหาเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะชะลอตัวลง ส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจไทยและการจ้างงานมีโอกาสฟื้นตัวได้ช้าในอนาคต ทำให้รายได้ในอนาคตของผู้บริโภคมีความไม่แน่นอนสูง”

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่55.1ดีขึ้นจากต.คคำพูดจาก สล็อต777. อยู่ที่54.5ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม อยู่ที่ 57.6ดีขึ้นจาก57.0และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่69.9ดีขึ้นจาก69.2ทั้งหมดเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่4แสดงว่าผู้บริโภคเริ่มกลับมามีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยสามารถกลับมาฟื้นตัวได้หลังมีการจัดตั้งรัฐบาลส่วนความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่4จากระดับ44.0เป็น44.6ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นในอนาคตปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 เช่นเดียวกัน โดยปรับตัวดีขึ้นจากระดับ68.0มาอยู่ที่ระดับ68.7การที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับมาปรับตัวดีขึ้นทุกรายการคำพูดจาก เว็บตรง true wallet