ประวัติ “ข้าวแช่” อาหารคลายร้อนยอดฮิต เมนูอร่อยคู่เทศกาลสงกรานต์

เข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการแล้ว! หลังกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเริ่มต้นฤดูกาลใหม่แล้ว เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 แถมในปีนี้กรมอุตุฯ ยังเปิดเผยอีกว่าสภาพอากาศจะร้อนกว่าปกติอีกประมาณ 1-2 องศาเซลเซียส ซึ่งคาดว่าอุณหภูมิจะแตะถึง 43.0-44.5 องศาเซลเซียสทีเดียว

ร้อนขนาดนี้แล้ว แค่เปลี่ยนการแต่งตัวให้ร่างกายเย็นลง คงไม่พอ “อาหารการกิน” ก็สำคัญ เพราะอาหารบางชนิด อย่างจำพวกแป้งและไขมัน หากกินในฤดูร้อนมักทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อ และรู้สึกอึดอัดตัว ชนิดที่ว่าร้อนจากข้างในไปข้างนอกเลยทีเดียว

ดังนั้นแล้วถ้าได้กินอาหารที่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศแล้วล่ะก็ อาจช่วยให้ร่างกายรู้สึกสบายตัว ยิ่งคลายร้อนได้ดี

อาหารช่วยให้เย็นลงได้จริงหรือไม่

การกินอาหารให้ถูกต้องตามฤดูกาล จริงๆ แล้วเป็นภูมิปัญญาไทยโบราณที่มีมาตั้งนานแล้ว เรียกว่า “การกินร้อน-กินเย็น” เพื่อรับประทานอาหารที่มีสรรพคุณเหมาะสมกับสภาพภูมิอาการในฤดูกาลต่างๆ

โดยการกินร้อน (อาหารฤทธิ์ร้อน)มักจะทำในหน้าหนาว หน้าฝน เพราะเชื่อว่าอาหารประเภทนี้จะช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น และการกินเย็น (อาหารฤทธิ์เย็น) มักจะทำในหน้าร้อน เพราะเชื่อว่าจะทำให้ร่างกายเย็นลงนั่นเอง โดยหนึ่งในเมนูยอดนิยมคลายร้อน ที่อยากให้ทุกคนได้กินกันคือ “ข้าวแช่”

“ข้าวแช่” เมนูคลายร้อนยอดฮิต-ของดีคู่เทศกาลสงกรานต์

“ข้าวแช่” เมนูอันดับต้นๆ ของประเทศ ที่เมื่อถึงหน้าร้อนทีไร ร้านอาหารไทยหลายร้านมักจะนำกลับมาทำ กลับมาขาย

เชื่อกันว่า ข้าวแช่เป็นอาหารไทยที่ได้รับวัฒนธรรมมาจากชาวมอญในดินแดนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ที่พวกเขามักทำขึ้นโดยเรียกว่า เปิงซัง กรานต์ หรือ ข้าวสงกรานต์ เพื่อนำไปไหว้บรรพบุรุษ สังเวยเทวดา และถวายพระสงฆ์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพราะเชื่อว่าหากไหว้ด้วยข้าวแช่และเครื่องเคียงที่ทำขึ้นมาจะสมปรารถนาตามที่ตั้งจิตอธิษฐานไว้

จากนั้นพระสนมเอกในรัชกาลที่ 4 ผู้มีเชื้อสายมอญได้ทำถวายรัชกาลที่ 4 และกลายเป็นที่โปรดปรานของพระองค์มาก ด้วยความที่รัชกาลที่ 4 ทรงโปรดแปรพระราชฐานพำนักแรมที่พระ นครคีรี หรือเขาวังอยู่เสมอ จึงอาจจะมีส่วนที่ทำให้ข้าวแช่เมืองเพชรมีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือก็เป็นได้ และส่งผลให้เมนูนี้แพร่หลายไปหลายจังหวัดภาคกลาง กลายเป็นเมนูโบราณคลายร้อนยอดฮิตของประเทศ

ประโยชน์ของข้าวแช่

ข้าวแช่ เป็นเมนูอาหารที่ประกอบด้วยสมุนไพรหลายชนิด คือลอยดอกมะลิและข้าวสวยที่หุงด้วยน้ำใบเตย ซึ่งมีฤทธิ์เย็น จึงมีสรรพคุณในการแก้ร้อนใน แก้กระหายน้ำ ช่วยทำให้ร่างกายสดชื่น

นอกจากนี้ยังมีเครื่องเคียงที่กินคู่กับข้าวแช่ คือ

  • ลูกกะปิซึ่งทำจากเนื้อปลาที่อุดมไปด้วยโปรตีนหอมแดง ข่า กระเทียม ตะไคร้ ผิวมะกรูดช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้เลือดลมไหลเวียนสะดวก ป้องกันการเป็นลมช่วงหน้าร้อนได้ดี
  • พริกหยวกสอดไส้หมูสับห่อไข่ และ หมูฝอย/เนื้อฝอย/ไก่ฝอยมีโปรตีนสูง ช่วยบำรุงร่างกาย และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
  • มะม่วงสับ ช่วยขับเสมหะ บรรเทาอาการไอ

ข้าวแช่เป็นอาหารที่สอดรับกับสภาพภูมิอากาศร้อนของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี ทางการแพทย์แผนไทยเชื่อว่าการกินอาหารที่มีน้ำเป็นองค์ประกอบจะทำให้ย่อยง่าย และสร้างความสมดุลภายในร่างกาย โดยจะช่วยลดอุณหภูมิลงให้คลายร้อน แล้วยังเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ลดความเสี่ยงต่อการเจ็บไข้ได้ป่วย เช่น ผิวแห้ง ปากแตก ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูกได้

เคล็ดลับการกินข้าวแช่

เพื่อเพิ่มความอร่อย! วิธีรับประทานที่ถูกต้อง ต้องเริ่มจากการกินเครื่องเคียงก่อน แล้วค่อยรับประทานข้าวแช่ พร้อมกับน้ำดอกมะลิตาม จะทำให้สดชื่น คลายร้อนได้ดี เคล็ดลับนี้จะทำให้ข้าวแช่ยังคงความหอมกลิ่นมะลิ น้ำข้าวแช่ไม่มัน และไม่เสียรสชาติตามด้วยผักสดเสริมรสชาติให้สมบูรณ์

สำหรับเครื่องเคียงที่นิยมทานคู่กัน ลูกกะปิควรรับประทานคู่กับมะม่วงสด รสเปรี้ยวอมหวาน จะช่วยให้กลมกล่อมเข้ากันดี และพริกหยวกสอดไส้หมูสับห่อไข่ จะนิยมรับประทานคู่กับกระชายอ่อน ช่วยเพิ่มรสชาติและความหอมอร่อยได้เป็นอย่างดี

ดังนั้นแล้วในช่วงนี้ ใครที่ไม่รู้จะกินอะไรดี ก็อยากให้นึกถึง “ข้าวแช่” แล้วลองไปกินกัน เพราะนอกจากความอร่อย ยังช่วยสนับสนุนสืบสานประเพณีวัฒนธรรมไทยได้อีกคำพูดจาก สล็อต777!

ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยศึกษา และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ

รัฐบาลยืนยันแล้ว! จัดสงกรานต์ฉ่ำๆ 21 วัน ตลอดเดือน เม.ย.

เพื่อนบ้านยึดบ้านอากู๋ ครอบครองปรปักษ์ เครียดคิดสั้น-ผูกคอลาโลก!

ผลบอลเอฟเอ คัพ รอบ 5 แมนซิตี้ ถล่ม ลูตัน 6-2 ลิ่วรอบ 8 ทีม คำพูดจาก เว็บพนันออน

พายุฤดูร้อน! ประกาศเตือนฉบับที่ 8 ฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง